การเป็นผู้จัดการศิลปินในงานอีเว้นท์ที่มือใหม่ต้องรู้

การเป็นผู้จัดการศิลปินในงานอีเว้นท์เป็นงานที่ต้องใช้ทั้งศาสตร์และศิลป์ในการบริหารจัดการ เริ่มตั้งแต่การเตรียมงานก่อนวันงาน ผู้จัดการต้องศึกษาและวิเคราะห์รายละเอียดสัญญาการว่าจ้างอย่างละเอียด โดยเฉพาะเงื่อนไขพิเศษต่าง ๆ เช่น ระยะเวลาการแสดง ข้อจำกัดด้านการถ่ายภาพ การให้สัมภาษณ์ และสิทธิประโยชน์ที่ศิลปินจะได้รับ ต้องประสานงานกับผู้จัดงานเพื่อรับทราบรายละเอียดทั้งหมด พร้อมทำ Checklist ควบคุมการเตรียมงาน ตั้งแต่ตารางเวลา การแต่งกาย อุปกรณ์ประกอบการแสดง และไฟล์ดนตรีที่ใช้ ต้องจัดเตรียมทีมงานส่วนตัวของศิลปิน เช่น ช่างแต่งหน้า สไตลิสต์ ทีมเทคนิค และบอดี้การ์ด โดยต้องมีการประชุมวางแผนร่วมกันล่วงหน้า นอกจากนี้ ต้องเตรียมแผนสำรองสำหรับเหตุฉุกเฉิน เช่น การเจ็บป่วยของศิลปิน ปัญหาการเดินทาง หรือสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวย

ในวันงาน ผู้จัดการต้องมาถึงสถานที่จัดงานก่อนศิลปินอย่างน้อย 2-3 ชั่วโมง เพื่อตรวจสอบความพร้อมของทุกฝ่าย ต้องสำรวจพื้นที่ทั้งหมดโดยละเอียด ทั้งขนาดห้องแต่งตัว สิ่งอำนวยความสะดวก เส้นทางเดินจากห้องแต่งตัวไปยังเวที ความปลอดภัยของเวที และระบบเทคนิคต่างๆ ต้องทำการ Sound Check และ Technical Run-through อย่างละเอียด เพื่อให้แน่ใจว่าระบบเสียง แสง และอุปกรณ์ทุกอย่างพร้อมใช้งาน ระหว่างงานต้องควบคุมการทำงานของทีมงานทุกฝ่ายให้เป็นไปตามแผน มีการสื่อสารผ่านวิทยุสื่อสารหรือหูฟังบลูทูธเพื่อประสานงานแบบเรียลไทม์ ต้องคอยสังเกตอารมณ์และสภาพร่างกายของศิลปิน พร้อมให้การสนับสนุนทั้งด้านร่างกายและจิตใจ ที่สำคัญต้องมีสติเมื่อเกิดปัญหา เพราะทุกคนจะมองมาที่ผู้จัดการเป็นคนแรกเมื่อต้องการความช่วยเหลือ

การเป็นผู้จัดการศิลปินที่ดีต้องเข้าใจจิตวิทยาการบริหารคนเป็นอย่างดี เพราะต้องทำงานร่วมกับคนหลายฝ่าย ทั้งศิลปิน ทีมงาน และผู้จัดงาน ต้องรู้จักการพูดจาและการวางตัวให้เหมาะสม มีความเด็ดขาดในการตัดสินใจแต่ยืดหยุ่นได้เมื่อจำเป็น ต้องเข้าใจธรรมชาติของงานบันเทิงที่มักมีการเปลี่ยนแปลงกะทันหัน และพร้อมรับมือกับความกดดันจากทุกด้าน นอกจากนี้ยังต้องมีความรู้พื้นฐานด้านเทคนิคการแสดง การจัดแสง สี เสียง เพื่อสามารถสื่อสารกับทีมเทคนิคได้อย่างมีประสิทธิภาพ หลังจบงานต้องมีการประเมินผลอย่างละเอียด ทั้งจุดที่ทำได้ดีและจุดที่ต้องปรับปรุง พร้อมรวบรวมข้อมูลและความคิดเห็นจากทุกฝ่ายเพื่อพัฒนางานในครั้งต่อไป

สรุปได้ว่า การเป็นผู้จัดการศิลปินในงานอีเว้นท์นั้นเป็นงานที่ต้องใช้ทั้งความรู้ ประสบการณ์ และทักษะหลากหลายด้าน ต้องมีความเป็นมืออาชีพสูง มีความรับผิดชอบ และพร้อมเรียนรู้ตลอดเวลา ความสำเร็จของงานไม่ได้วัดจากการแก้ปัญหาได้ดีเพียงอย่างเดียว แต่วัดจากความสามารถในการป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาตั้งแต่แรก การวางแผนที่รัดกุม การประสานงานที่มีประสิทธิภาพ และการรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับทุกฝ่าย จึงเป็นกุญแจสำคัญที่จะทำให้งานอีเว้นท์ประสบความสำเร็จและได้รับความไว้วางใจจากทั้งศิลปินและผู้จัดงานในระยะยาว