เปิดเบื้องหลังการจัดงานคอนเสิร์ต K-POP ที่ทำให้เกิดโชว์สุดว้าว
Student blog — 02/05/2025

การจัดคอนเสิร์ต K-POP ในยุคปัจจุบันได้พัฒนาไปไกลกว่าการแสดงดนตรีทั่วไป กลายเป็นการผสมผสานศิลปะหลายแขนงและเทคโนโลยีล้ำสมัยเข้าด้วยกัน การเตรียมงานเริ่มต้นด้วยการวางแผนล่วงหน้าอย่างน้อย 8-12 เดือน โดยทีมครีเอทีฟระดับแนวหน้าจากทั่วโลกจะมาร่วมกันออกแบบคอนเซ็ปต์การแสดง ทั้งโครงสร้างเวที การจัดแสง เทคนิคพิเศษ และลำดับการแสดง งบประมาณในการจัดงานคอนเสิร์ตระดับสเตเดียมอาจสูงถึงหลายร้อยล้านบาท โดยส่วนใหญ่จะใช้ไปกับระบบแสง สี เสียง และเทคโนโลยีพิเศษต่างๆ
ด้านเทคนิคการแสดง เวทีคอนเสิร์ต K-POP ในปัจจุบันใช้ระบบไฮดรอลิกที่สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบได้อย่างรวดเร็ว พร้อมจอ LED ความละเอียดสูงขนาดใหญ่ครอบคลุมพื้นที่กว่า 1,000 ตารางเมตร ระบบเสียงคุณภาพสูง และระบบแสงไฟ LED ที่เปลี่ยนสีได้มากกว่าล้านสี มีการใช้เทคโนโลยีพิเศษหลากหลาย ทั้งเทคนิค Hologram สร้างภาพสามมิติ ระบบ AR ผสานโลกจริงและเสมือน และโดรนแสดงแสงสีบนท้องฟ้า การควบคุมการแสดงใช้ระบบคอมพิวเตอร์ที่ซิงโครไนซ์ทุกองค์ประกอบเข้าด้วยกัน พร้อมระบบสำรองหลายชั้นเพื่อป้องกันความผิดพลาด
ด้านการเตรียมตัวศิลปิน ทีมงาน และความปลอดภัย ศิลปิน K-POP และทีมแดนเซอร์จะซ้อมอย่างเข้มข้นวันละ 12-16 ชั่วโมง เป็นเวลา 3-4 เดือน มีการใช้ระบบ Motion Capture วิเคราะห์ท่าเต้น และซ้อมร้องกับวงดนตรีสด ทีมสไตลิสต์ออกแบบชุดการแสดงที่ทั้งสวยงามและรองรับเทคนิคพิเศษ ด้านความปลอดภัยมีการวางระบบหลายชั้น ทั้งการตรวจค้น กล้องวงจรปิด AI ทีมรักษาความปลอดภัย และทีมแพทย์ฉุกเฉิน รวมถึงการจัดการด้านโลจิสติกส์ที่ต้องขนย้ายอุปกรณ์หนักกว่า 100 ตัน
ด้านการสไตลิ่ง ทีมสไตลิสต์มีบทบาทสำคัญในการสร้างภาพลักษณ์ให้กับศิลปิน K-POP โดยการทำงานจะเริ่มตั้งแต่ขั้นตอนการวางคอนเซ็ปต์ของอัลบั้มและคอนเสิร์ต ทีมจะวิเคราะห์ทั้งแนวเพลง ท่าเต้น และบุคลิกของศิลปินแต่ละคน เพื่อออกแบบเครื่องแต่งกายที่สะท้อนตัวตนและเสริมความมั่นใจให้กับศิลปินขณะแสดงบนเวที การเลือกใช้วัสดุพิเศษอย่างผ้าสะท้อนแสง คริสตัล หรือวัสดุที่เรืองแสงได้ ถูกนำมาผสมผสานกับเทคนิคการตัดเย็บขั้นสูง นอกจากนี้ ทีมแต่งหน้าทำผมยังใช้เทคนิคการแต่งหน้าที่ช่วยเน้นจุดเด่นและสร้างคาแรกเตอร์เฉพาะตัวของศิลปินแต่ละคนให้โดดเด่นชัดเจนยิ่งขึ้น ส่งผลให้ลุคของศิลปิน K-POP มีอิทธิพลต่อเทรนด์ความงามและแฟชั่นในระดับสากล
ด้านการผลิตสื่อและการถ่ายทอด มีการวางระบบการบันทึกภาพและเสียงที่ซับซ้อน ใช้กล้องความละเอียดสูงมากกว่า 20 ตัว ทั้งกล้องหลัก กล้องเครน กล้องราง และกล้องโดรน พร้อมทีมตัดต่อที่ทำงานแบบเรียลไทม์เพื่อนำเสนอภาพที่ดีที่สุดบนจอ LED ขนาดใหญ่ในงาน มีการถ่ายทอดสดผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ที่รองรับผู้ชมหลายล้านคนพร้อมกันทั่วโลก พร้อมระบบแปลภาษาแบบเรียลไทม์ และการผลิตคอนเทนต์พิเศษสำหรับโซเชียลมีเดีย
ด้านการจัดการแฟนคลับและประสบการณ์ผู้ชม มีการออกแบบระบบจำหน่ายบัตรที่รองรับการเข้าถึงจากทั่วโลก พร้อมระบบป้องกันการเก็งกำไรบัตร การจัดโซนที่นั่งคำนึงถึงมุมมองการชมที่ดีที่สุดสำหรับผู้ชมทุกที่นั่ง มีการจัดกิจกรรมพิเศษก่อนคอนเสิร์ต เช่น เช่น K-POP Exhibition, Official Merchandise Store และ Interactive Photo Zone รวมถึงการแจก Official Electronic Light Stick ที่ซิงค์กับจังหวะเพลง และ Application พิเศษสำหรับแฟนๆ เพื่อเพิ่มความสนุกและการมีส่วนร่วมระหว่างการแสดง
สรุปได้ว่าการจัดคอนเสิร์ต K-POP ในปัจจุบันเป็นการผสมผสานระหว่างศิลปะการแสดงและเทคโนโลยีขั้นสูง ต้องอาศัยความร่วมมือจากผู้เชี่ยวชาญหลากหลายสาขา ทั้งด้านการผลิต เทคนิค การแสดง และการจัดการ เพื่อสร้างสรรค์การแสดงที่สมบูรณ์แบบและประทับใจผู้ชม จนทำให้คอนเสิร์ต K-POP กลายเป็นมาตรฐานใหม่ของความบันเทิงระดับโลก
บทความโดย อาจารย์ ดร.รุจิภาส บุญสำเร็จ อาจารย์ประจำสาขาวิชาการผลิตและการจัดการอีเว้นท์