มหาวิทยาลัย ขอน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระนามราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง

ศิลปะของแสงและควัน – เบื้องหลังประสบการณ์ที่ผู้ชมไม่มีวันลืม

Student blog — 28/10/2025

ศิลปะของแสงและควัน – เบื้องหลังประสบการณ์ที่ผู้ชมไม่มีวันลืม
ไขความลับ! แสงและควัน คือจุดเปลี่ยนของทุกงานอีเว้นท์
เวลาพูดถึงงานคอนเสิร์ต งานโชว์ หรือแม้กระทั่งอีเว้นท์เล็ก ๆ หลายคนจะโฟกัสไปที่ศิลปิน เพลง หรือเวที แต่สิ่งที่ “ทำให้เราอิน” แบบไม่รู้ตัวคือ บรรยากาศ และบรรยากาศนี้ ส่วนใหญ่มาจาก “แสง” และ “ควัน”

“แสงที่ดี” ไม่ได้แปลว่าไฟต้องเยอะ หรือซับซ้อน แต่คือแสงที่ถูกมองเห็น และสื่อสารอารมณ์ได้จริง ๆ ซึ่งตรงนี้เองที่ “ควัน” เข้ามามีบทบาทอย่างมีนัยสำคัญ

การจัดคอนเสิร์ตและงานอีเว้นท์ในยุคปัจจุบันไม่ได้เป็นเพียงการแสดงดนตรีหรือความบันเทิงทั่วไป แต่คือการสร้าง ประสบการณ์แบบครบวงจร ที่ผสมผสานทั้งศิลปะ เทคโนโลยี และการออกแบบบรรยากาศเพื่อดึงผู้ชมเข้าสู่โลกอีกใบหนึ่ง เบื้องหลังงานที่ประสบความสำเร็จนั้น “ระบบแสง” และ “เอฟเฟกต์ควัน” ถือเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ช่วยกำหนดอารมณ์และมิติของโชว์ได้อย่างทรงพลัง

ด้านการออกแบบแสง (Lighting Design)

ด้านการออกแบบแสง (Lighting Design)

ระบบแสงในงานคอนเสิร์ตถูกพัฒนาไปไกลกว่าการใช้ไฟเพื่อส่องเวที ปัจจุบันไฟแต่ละดวงถูกวางแผนและโปรแกรมล่วงหน้าอย่างละเอียดให้สอดคล้องกับเพลงและการแสดง มีการใช้ไฟหลายชนิดในแต่ละโชว์ เช่น LED, Moving Head, Beam, Wash และ Spotlight ซึ่งจะถูกผสมผสานเพื่อสร้างชั้นของสีและจังหวะ บางโชว์ยังมีการซิงค์แสงเข้ากับจังหวะเพลงแบบ เรียลไทม์เพื่อเพิ่มความตื่นเต้นการจัดแสงไม่ใช่แค่เรื่องความสว่าง แต่คือการสร้าง Mood & Tone ที่สามารถเปลี่ยนบรรยากาศของทั้งฮอลล์ได้ภายในเสี้ยววินาที จากความอบอุ่นโรแมนติกไปสู่ความดุดันทรงพลัง
ด้านควันและหมอก (Smoke & Haze Effect)
ควันเป็นองค์ประกอบที่มักถูกมองข้าม แต่ในความเป็นจริงแล้วคือ “เพื่อนร่วมงานของแสง” หากไม่มีควัน แสงจากไฟจะถูกมองเห็นเพียงปลายทางที่ตกกระทบ แต่เมื่อมีหมอกหรือควัน ลำแสงจะถูกมองเห็นขณะอยู่กลางอากาศ เสมือนเป็นโครงสร้างล่องหนที่สร้างมิติให้กับโชว์

ในประเทศไทยมีการใช้เครื่องผลิตควันอย่างแพร่หลาย และหลากหลายรูปแบบ

ด้านควันและหมอก (Smoke & Haze Effect)

Hazer : ลักษณะควันที่นวล และบางเบา จะช่วยให้ลำแสงชัดเจนขึ้น สีของไฟนวลขึ้น เหมือนซอฟท์บ๊อกซ์ที่คอยซับความแรงของแสงเหมาะสำหรับโชว์ที่ต้องการความละมุนของลำไฟและความต่อเนื่องของอารมณ์ภายในงาน เช่น คอนเสิร์ต งานแต่ง งานอีเว้นท์ทั่วไป

Fogger : ลักษณะควันที่หนาแน่น และเกาะเป็นกลุ่มก้อน

Fogger : ลักษณะควันที่หนาแน่น และเกาะเป็นกลุ่มก้อน มักจะถูกใช้เพื่อเน้นช่วงพีคของการแสดง เช่น ช่วงดนตรีดรอปของเพลง EDM หรือท่อนฮุคของคอนเสิร์ตใหญ่

Special FX (CO₂, Pyro Smoke, Low Fog) : เอฟเฟกต์พิเศษ

Special FX (CO₂, Pyro Smoke, Low Fog) : เอฟเฟกต์พิเศษ ที่ใช้เพิ่มความอลังการและความตื่นเต้นในซีนของโชว์นั้น ๆ

ควันจึงไม่ใช่เพียงแค่ของตกแต่ง แต่คือเครื่องมือที่ทำให้แสงและบรรยากาศกลายเป็นประสบการณ์ที่ผู้ชมสัมผัสได้จริง

ในประเทศไทยมีการใช้หมอกควันอยู่มาก จึงจำเป็นที่จะคำนึงถึงคุณภาพทั้งในด้าน อุปกรณ์ เครื่องผลิตควัน น้ำยา และ ตำแหน่งการวาง โดยมีหลักการสำคัญคือ หมอกควันควรเป็นองค์ประกอบเสริมที่ช่วยเติมเต็มบรรยากาศ ไม่ใช่สิ่งที่ก่อให้เกิดปัญหากับผู้ชม ศิลปินหรือทีมงาน และควรปล่อยในระดับที่พอดี เพื่อให้ผู้ชมสัมผัสประสบการณ์ที่สมบูรณ์แบบ

ด้านประสบการณ์ผู้ชม (Audience Experience)
งานอีเว้นท์ที่มีแสงและควันที่ออกแบบมาอย่างดี สามารถเปลี่ยนผู้ชมจากผู้สังเกตการณ์ ให้กลายเป็นส่วนหนึ่งของโชว์ได้ทันที ลำแสงที่พุ่งออกจากเวทีผ่านหมอกควันบาง ๆ สร้างความรู้สึกเหมือนถูกโอบล้อม ผู้ชมไม่เพียงแค่ “เห็น” การแสดง แต่ “อยู่ใน” การแสดง

ด้านประสบการณ์ผู้ชม (Audience Experience)

ในเชิงจิตวิทยา ควันและแสงยังช่วยกระตุ้นอารมณ์ผู้ชม เช่น ความล่องลอย ความดุดัน ความอบอุ่น หรือความตื่นเต้นสูงสุด ซึ่งกลายเป็นความทรงจำที่ติดอยู่กับเพลงและประสบการณ์งานนั้น ๆ
ด้านเทคนิคและการทำงานหลังเวที
สำหรับนักออกแบบแสง ควันยังเป็นตัวช่วยที่สำคัญในการ “เห็นทิศทางของแสง” ทำให้สามารถตรวจสอบตำแหน่งไฟได้แม่นยำขึ้น อีกทั้งยังช่วยให้การซิงค์กับระบบอื่น ๆ เช่น visual sound หรือเอฟเฟกต์พิเศษเป็นไปอย่างราบรื่น

ด้านเทคนิคและการทำงานหลังเวที

ในงานระดับสากล ควันและระบบแสงมักถูกควบคุมผ่านระบบคอมพิวเตอร์และคอนโซล Lighting โดยเฉพาะ ในระดับที่สามารถเก็บค่าพรีเซ็ตได้หลายร้อยฉาก เพื่อให้โชว์มีความต่อเนื่องและลดความผิดพลาดให้น้อยที่สุด
ด้านความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อม
เทคโนโลยีควันและหมอกในปัจจุบันมีการพัฒนาให้เป็นมิตรกับผู้ชม และศิลปินมากขึ้น โดยได้มีการพัฒนา น้ำยาผลิตหมอกควันเป็นรูปแบบของน้ำ (water-based) ที่ไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อระบบหายใจ และยังสลายตัวได้ไวหลังจากถูกปล่อยมาแล้ว

การเลือกใช้ควันจึงไม่ใช่เพียงเรื่องความสวยงาม แต่ยังเกี่ยวข้องกับมาตรฐานความปลอดภัย ต่อศิลปิน ต่อผู้ชม และต่อภาพลักษณ์ของงานอีกด้วย

การออกแบบแสงและควันให้เหมาะสมกับแต่ละแนวดนตรีแต่ละประเภท
การใช้งาน Smoke ในงานอินดี้
การใช้งาน Smoke ในงานอินดี้
การใช้งาน Smoke ในงานอินดี้
การใช้งาน Smoke ในงานอินดี้คือ สิบเดซิเบล มิวสิค เฟสติวัล ซึ่งเป็นงานที่มีเอกลักษณ์ในด้านการสร้างบรรยากาศเศร้า ล่องลอย และชวนดื่มด่ำไปกับเสียงเพลง การออกแบบแสงและควันถูกกำหนดมาเพื่อเสริมโทนงานโดยเฉพาะ ไม่ได้เน้นเพียงความอลังการ แต่ให้ความสำคัญกับ “อารมณ์” และ “ความรู้สึกของผู้ชม”
ในงานร็อค การแสดงมักเต็มไปด้วยพลังดิบ เสียงกีตาร์แตกพล่า และการเคลื่อนไหวที่เข้มข้นของศิลปินบนเวที การใช้ Smoke จึงเป็นตัวช่วยเสริมให้บรรยากาศดุดัน หนักแน่น และทรงพลังมากขึ้น แสงไฟที่ยิงผ่านควันจะเกิดเป็นเส้นแสงที่ชัดเจน สร้างอารมณ์ “ดิบ เท่” ที่ตรงกับแนวเพลง ตัวอย่างเช่น การเปิดโชว์ด้วยแสงแฟลชที่ทะลุควันหนา ๆ พร้อมเสียงดนตรีที่ระเบิดออกมา ทำให้ผู้ชมรู้สึกอินไปกับพลังงานของโชว์ตั้งแต่วินาทีแรก
ในทางกลับกัน งานป๊อบจะเน้นความสวยงาม ความฝัน และช่วยเสริมภาพรวมของเวที ในงานลักษณะนี้จะถูกใช้ในระดับที่พอดี ไม่หนาจนบดบังศิลปิน แต่พอให้แสงไฟสามารถสร้างมิติที่นุ่มนวลและเข้าถึงง่าย เช่น แสงสีชมพูที่ส่องผ่านควันบาง ๆ พร้อมเพลงช้า ๆ จะช่วยให้ผู้ชมรู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปในโลกอีกใบหนึ่ง ทำให้บรรยากาศอบอุ่นและเป็นกันเองมากขึ้น

เลือกใช้ Hazer แบบ Water-based เพื่อสร้างหมอกบาง ๆ ที่โปร่งใส ไม่ระคายเคืองต่อผู้ชมและศิลปิน

ควบคุมปริมาณหมอกควันให้อยู่ในระดับที่ต้องการสำหรับการสร้างบรรยากาศ โดยประคองความหนาแน่นของสโมคให้อยู่ในเกณฑ์ที่ทุกคนรับได้

มีการสื่อสารกับศิลปินล่วงหน้าเพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีปัญหาด้านสุขภาพหรืออาการแพ้ควัน พร้อมใช้น้ำยาสโมค ที่มีประสิทธิภาพ มีเอกสารรับรองความปลอดภัย

การออกแบบในลักษณะนี้สะท้อนให้เห็นว่า Smoke ไม่จำเป็นต้องถูกใช้มากจนบดบัง แต่สามารถกลายเป็น เครื่องมือสร้างบรรยากาศที่ทรงพลัง เมื่อมีการวางแผนและใช้อย่างรอบคอบ

สรุป
แสงและควันไม่ใช่แค่ส่วนประกอบเล็ก ๆ ในงานคอนเสิร์ตหรืออีเว้นท์ แต่คือ หัวใจสำคัญในการสร้างบรรยากาศและประสบการณ์ สำหรับผู้ชม หากไม่มีควัน แสงอาจยังคงสวยงาม แต่เมื่อมีควัน แสงจะมีชีวิต มีวิญญาณ และสามารถพาผู้ชมเข้าสู่โลกอีกใบหนึ่งได้อย่างสมบูรณ์

เบื้องหลังโชว์ที่น่าจดจำ จึงไม่ใช่เพียงศิลปินหรือเวที แต่คือการผสมผสานของ ศิลปะและเทคโนโลยี ที่ถูกออกแบบมาอย่างประณีต โดยเฉพาะ “แสงและควัน” ที่ทำให้งานอีเว้นท์ก้าวข้ามจากการแสดงธรรมดาไปสู่ ประสบการณ์ที่ตราตรึงใจ

แชร์บทความนี้

หลักสูตร